วันจันทร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

งานแถลงข่าวเปิดตัวหนังสั้น

งานแถลงข่าวเปิดตัวหนังสั้น
วันอังคารที่ 14 กุมภาพันธ์ 2555

ภาพบรรยากาศ ภายในงานแถลงข่าวเปิดตัวหนังสั้น เรื่อง "หนูอยากได้"
ทีม ซู่ซ่าเปรี้ยวแซ่บ






วันจันทร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

หลักการเป็นพิธีกรที่ดี

.. หลักการเป็นพิธีกรที่ดี ..

            พิธีกร (Master of Ceremony: MC) คือ ผู้ดำเนินการในพิธีต่าง ๆ เป็นบุคคลที่ทำหน้าที่ กำกับ  อำนวยการ ให้กิจกรรม รายการหรือ พิธีการต่าง ๆ ดำเนินการไปให้แล้วเสร็จ เรียบร้อยตามวัตถุประสงค์และกำหนดการที่วางไว้

หน้าที่ของพิธีกร  
1. เป็นผู้ให้ข้อมูลแก่ผู้ฟัง / ผู้ชม / ผู้เข้าร่วมพิธี โดยอย่างน้อยจะต้องมี ขบวนการดังต่อไปนี้ เช่น ตามลำดับ ในแต่ละกิจกรรม
             1.1 แจ้งกำหนดการ
             1.2 แจ้งรายละเอียดของรายการ
             1.3  แนะนำผู้พูด ผู้แสดง
             1.4 ผู้ดำเนินการอภิปรายและอื่น ๆ
2. เป็นผู้เริ่มกิจกรรม / งาน / พิธี / รายการ เช่น
             2.1 กล่าวทักทาย ต้อนรับเชิญเข้าสู่งาน
             2.2 เชิญเข้าสู่พิธี ดำเนินรายการต่าง ๆ แล้วแต่กิจกรรม
             2.3 เชิญ เปิดงาน – ปิดงาน
3. เป็นผู้เชื่อมโยงกิจกรรม / งาน / พิธี / รายการต่าง ๆ เช่น
              3.1 กล่าวเชื่อมโยงเหตุการณ์ตามลำดับ
              3.2 แจ้งให้ทราบเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงกำหนดการ
              3.3 แจ้งขอความร่วมมือ
              3.4 กล่าวเชื่อมโยงรายการให้ชวนติดตาม
              3.5  เป็นผู้ส่งเสริมจุดเด่นให้งานหรือกิจกรรมและบุคคลสำคัญในงานพิธี / รายการโดยพิธีกรจะต้องเป็นผู้ทำหน้าที่ในวาระที่เหมาะสม
             3.6 กล่าวยกย่องสรรเสริญ ชื่นชมบุคคลสำคัญที่เกี่ยวข้องในพิธี
             3.7 กล่าวถึงจุดเด่นของงานพิธีนั้น ๆ
             3.8 กล่าวแจ้งผลรางวัลและการมอบรางวัล
4. เป็นผู้ที่สร้างสีสัน บรรยากาศของงาน / พิธี / รายการ เช่น
              4.1 ให้ข้อมูลที่น่าสนใจเพิ่มเติมเป็นระยะ
              4.2 มีมุขขำขึ้นเป็นระยะ ๆ
5. เป็นผู้เสริมสร้างความสมานฉันท์ในงาน / กลุ่มผู้ร่วมงาน เช่น
              5.1 กล่าวละลายพฤติกรรม
              5.2 กล่าวจูงใจให้รักสามัคคี
6. เป็นผู้เติมช่องว่างและแก้ปัญหาเฉพาะหน้าในงานพิธีต่าง ๆ เช่น
              6.1 กล่าวชี้แจงกรณีบุคคลสำคัญไม่สามารถมาช่วยงานพิธีต่าง ๆ ได้
             6.2  กล่าวทำความเข้าใจกรณีต้องเปลี่ยนแปลงกำหนดการ 

การเตรียมตัว
   1.ศึกษาข้อมูล / วิเคราะห์สถานการณ์ ผู้นำ ผู้ชม โอกาส วัตถุประสงค์ของงานพิธี รายการที่กำหนดไว้เพื่อทราบความมุ่งหมายของการทำหน้าที่
   2.เตรียมเนื้อหาและคำพูด เริ่มต้นอย่างไร  มุขตลก ขำขัน แทรกอย่างไร คำคม ลูกเล่น จุดเด่นที่ควรกล่าวถึง ต้องเตรียมค้นคว้าศึกษาจากศูนย์ข้อมูลมาให้พร้อม
   3.ตรวจสอบความเหมาะสม ของบทความที่เตรียมมาว่าเหมาะสมกับเวลาหรือไม่
   4.ต้องมีการฝึกซ้อมไม่ว่าจะซ้อมหลอกหรือซ้อมจริง ต้องมีการฝึกซ้อม
   5.ศึกษาสถานที่จัดงานหรือพิธีที่กำหนดไว้ล่วงหน้า
   6.เตรียมเสื้อผ้าและชุดการแต่งกาย อย่างเหมาะสมกับกิจกรรม พร้อมดูแลตั้งแต่ หัวจรดเท้า

ข้อควรปฏิบัติ
      ในการทำหน้าที่ของพิธีกรหรือโฆษก มีดังนี้
    •  ทำจิตให้แจ่มใส
    •  ไปถึงก่อนเวลา
    •  อุ่นเครื่องแก้ประหม่า
    •  ทำหน้าที่สุดฝีมือ
    •  เลื่องลือผลงาน

ข้อพึงระวัง 
      สำหรับการทำหน้าที่เป็นพิธีกร
   •  ต้องดูดีมีบุคลิก
   •  ต้องรักษาเวลาอย่างเคร่งเครียด
   •  ต้องแสดงออกอย่างสุภาพและให้เกียรติ ร่าเริงแจ่มใส ให้ความเป็นกันเอง
   •  ต้องมีการประสานงานด้านข้อมูล และพร้อมเผชิญปัญหาโดยไม่หงุดหงิด
   •  ต้องใช้ภาษาให้ถูกต้องชัดเจนให้ชวนฟัง น่าติดตาม
   •  ต้องเสริมจุดเด่นของคนอื่นไม่ใช่ของตนเอง
   •  สร้างความประทับใจ ด้านสุภาษิต หรือคำคม 

วันพุธที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

กิจกรรมการสร้างบาร์โค้ด 2 มิติ (QR Barcode)

กิจกรรมการสร้างบาร์โค้ด 2 มิติ (QR Barcode)


Barcode URL

Barcode Name


Barcode Phone

หลักการและพื้นฐานการออกแบบและนำเสนอด้วยการแถลงข่าว

เทคนิคการออกแบบและนำเสนออย่างสร้างสรรค์ด้วยการ
สถานการณ์จำลองการแถลงข่าวบริษัทเรียนรู้ไร้ขีดจำกัด

ในโลกยุคที่เทคโนโลยกีารสื่อสารมีการพัฒนาไปอย่างไม่หยุดยั้ง ทำให้ "การประชาสัมพันธ์" หรือ"การส่งผ่าน่ขาวสารไปสู่สาธารณชน" เป็นไปด้วยความคล่องตัว รวดเร็ว ฉับไว หลายองค์กรศึกษาและเรียนรู้ประสิทธิภาพการสื่อสารแบบไร้พรมแดนและขีดจำกัด เพื่อนำมาใช้ในการประชาสัมพันธ์องค์กรของตนได้อย่างมีประสิทธิภาพ กิจกรรมหนึ่งที่หลายองคก์รนิยมจัดขึ้น เพื่อประชาสัมพันธ์องค์กร และผลงานของตนสู่ประชาชน นั่นคือการจัดการแถลงข่าว


ความหมายของการแถลงข่าว
การแถลงข่าวคือการกระจายข่าวสารของเราไปสู่สาธารณชน โดยผ่านสื่อสารมวลชน ไม่ว่าจะเป็น โทรทัศน์วิทยุสื่อส่ิ่งพิมพ์สื่ออินเตอร์เน็ต เป็นการให้ข่าวสารโดยตรงผ่านคำแถลงของผู้แถลงข่าวหรือ Spokeperson
ข้อดีของการแถลงข่าว
1. ไมผ่านการตีความจากสื่อ
2. ทำให้ข่าวสารมีความถูกต้อง ตรงตามวตัถุประสงค์ของผู้กระจายข่าวสาร
3. การแถลงข่าวยังได้รับการยอมรับว่า เป็นสิ่งสำคัญ ที่สุดอย่างหนึ่งในการประชาสัมพันธ์ในภาวะวิกฤติอีกด้วย
4. ด้วยเทคโนโลยีการสื่อสารในยุค ปัจจุบันผ่านสังคมออนไลน์ ได้เปิดโอกาสให้องค์กรเล็กๆ โรงเรียนสถาบันการศึกษา นักเรียนนักศึกษา หรือกลุ่มคนทั่วไป สามารถทำการแถลงข่าวได้โดยไม่ต้องใช้ต้นทุนมากมายแต่ได้ผลในระดับที่น่าพอใจ
5. เยาวชนบางกลุ่มจดัการแถลงข่าวแล้วเผยแพร่ทางเว็ปไซด์Youtube เผยแพร่ข่าวสารทาง website,blog หรือแม้กระทั่ง Facebook, Hi5ของตนเอง ในขณะเดียวกันก็เชิญส่ือมวลชนเข้าร่วมทำข่าวควบคู่กันไปด้วย
ดังนั้น การแถลงข่าวจึงไม่ใช่อาวธุสำคัญของการประชาสัมพันธ์ในภาวะวิกฤติแต่เพียงอย่างเดียวหากแต่ยังเป็นอาวธุ สำคัญในการประชาสัมพันธ์ทั่วไปอีกด้วย  ทุกอย่างอยู่ที่การเตรียมการการวางแผน และลงมือทำ ...
ขั้นตอนการแถลงข่าว
เริ่มต้นที่ไหนดี
หากท่านหรือหน่วยงาน สถาบัน บริษัทห้างร้านของท่านต้องการจะจัดแถลงข่าวขึ้น อะไรคือสิ่งที่ต้องดำเนินการ ... จะเริ่มต้น ตรงไหน ... อย่างไร... มาดูที่การเตรียมการแถลงข่าวกันก่อน ท่านต้องตอบคำถามเหล่าน้ีให้ได้
          1. ต้องการเสนอข่าวอะไร
          2. ต้องการเสนอข่าวให้ใคร
          3. ต้องการจะนำเสนอข่าวอย่างไร
          4. ต้องการนำเสนอเมื่อใด


ต้องการเสนอข่าวอะไร
ข่าวที่ท่านต้องการนำเสนออาจเป็นข่าวสารและกิจกรรมทั่วไปขององคก์รเช่น การแถลงข่าว
ประจำเดือน การเปิดตัวสินค้าใหม่ หรือเป็นการแถลงข่าวโครงการที่จัดทำขึ้น เช่น โครงการปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติโครงการรณรงค์ลดภาวะโลกร้อน หรือโครงการที่น่าสนใจของบริษัทชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นขององค์กร ในลักษณะของการให้ข้อเท็จจริง หรือชี้แจงความคืบหน้าของสถานการณ์ที่ไม่ปกติ


ต้องการเสนอให้ใคร
เป้าหมายของท่าน คือ สื่อมวลชน หรือทั้งสื่อมวลชนและประชาชนทั่วไป ที่ร่วมรับฟังการแถลงข่าวหรือเพียงเฉพาะประชาชนทั่วไปการแถลงข่าวอย่างไม่เป็นทางการ ส่วนใหญใช้ในการเปิดตัวหนังสือเรื่องราวที่ไม่หนักมาก บรรยากาศสบายๆ ทั้งผู้แถลงและผู้ฟังไม่เหมาะสำหรับการแถลงข่าวงานหรือกิจกรรมที่มีรูปแบบเป็นทางการอย่างไรก็ตามการแถลงแบบกึ่งไม่เป็นทางการสามารถกระทำ ได้แม้สาระที่จะแถลงเป็นทางการขึ้นอยู่กับ ตัวผู้แถลง


  การใช้ Power Point มีข้อดีคือ ทำให้สามารถอธิบายได้ละเอียดผู้ฟังเห็นภาพ แต่มีข้อควรระวังคือกล้องโทรทัศน์จะจับภาพได้มากน้อยเพียงใดอันเป็นผลมาจากแสงที่ค่อนข้างมืดระหว่างการฉายอีกทั้งการอธิบายประกอบภาพ สื่อวิทยุไม่สามารถนำเสียงแถลงข่าวไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากผู้ฟังไม่สามารถเห็นภาพ
ข้อสำคัญ 10 ข้อของการแถลงข่าว

1. วางแผนล่วงหน้าอย่างน้อย 2 สัปดาห์ว่าจะทำอะไรอย่างไรเมื่อไร
คู่มือการกำหนดสถานที่แถลงข่าว
- สิ่งอำนวยความสะดวกสื่อมวลชน เช่น โทรศัพท์โทรสารเครื่องถ่ายเอกสารอินเตอร์เน็ต ห้องสุขา
- ความยุ่งยากของระบบเสียง เช่น ลำโพงไมโครโฟน เสียงก้อง เสียงรบกวน หากเป็นภายนอก คำนึงถึง   เสียงลม แสงแดด
- มุมพักคอยและเครื่องดื่ม อาหารว่างของผู้สื่อข่าว


คู่มือการกำหนดเวลา
- กำหนดล่วงหน้าอย่างน้ัอย 1 สัปดาห์
- ปกติควรใช้วัน อังคาร พุธ พฤหัสบดี
- ไม่ตรงกับกิจกรรมที่สำคัญ อื่นๆ ท่ี่ส่ื่อมวลชนต้องไปทำข่าว
- วันพิเศษบางวัน เช่น วันประกาศผลลอตเตอรี่ สื่อจะปิดต้นฉบับเร็วมาก
2. ทำความเข้าใจกับทีมงาน ให้เข้าใจตรงกันว่า แผนเป็นอย่างไร ทำเพื่ออะไร ทำอย่างไร
ภารกิจทีมงานแถลงข่าว
- ทีมงานต้องเตรียมการรับมือกับสิ่งที่คาดไม่ถึง เช่น ไฟดับ ไมโครโฟนไม่ดัง มีผู้ก่อกวนการแถลงข่าวผู้สื่อข่าวถามคำถามที่ไม่ควรถาม
- ต้องคำนึงเสมอว่าการแถลงข่าวนี้มีความสำคัญ อย่างยิ่งในการสนับสนุนให้องค์กรบรรลุภารกิจ
- สร้างความสัมพันธ์อันดีกับสื่อ
3. เตรียมข้อมลู ข่าวสารเอกสารแผ่นพับ โปสเตอร์ที่จะใช้ในการแถลงข่าวเพื่อจัดทำ ชุดแถลงข่าว(Press kit) แจกผู้สื่อข่าวในวันแถลงข่าว
4. เตรียมรายชื่อของสื่อและตัดสินใจว่าจะเชิญใครบ้าง
5. ทำหนังสือเชิญร่วมทำข่าวการแถลงข่าวและแฟ๊กซ์ให้กับ สื่ออย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนการแถลงข่าว
6. เตรียมร่างคำแถลงข่าว ที่สั้น กระชับ ตรงประเด็น ไม่ควรเกิน 10 นาที พร้อมแนวทางถามตอบ
ข้อจำกัดของสื่อมวลชน
- สื่อวิทยุ โทรทัศน์มีเวลาที่จำกัดในการเสนอข่าวสาร หรือบทสัมภาษณ์ (เฉลี่ยไม่เกิน 2 นาทีต่อ 1 ข่าว)
- สื่อสิ่งพิมพ์มีเนื้อที่จำกัดในการเสนอข่าว หรือบทสัมภาษณ์ดังนั้น คำแถลงข่าวต้องสั้น กระชับ ตรงประเด็น
7. นำข้อมูล ทั้งหมดและคำแถลงข่าว มารวบรวมจัดทำ “ข่าวประชาสัมพันธ์” และชุดแถลงข่าวเพื่อแจกสื่อมวลชน
8. โทรหาผู้สื่อข่าวอีก 2 ครั้ง
-คร้ังแรก 3 วันก่อนแถลงเพื่อยีนยันว่า ยังมีการแถลงข่าว
-คร้ังที่สอง 1 วันก่อนแถลงเพื่อยืนยันการมาร่วม
9. ในวันแถลงข่าวให้มาเตรียมการก่อนเวลา เพื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า


ข้อควรระวัง
- มีพิธีกรเพื่อคอยช่วยผู้แถลงข่าวหรือไม่ในกรณีสื่อถามไม่ตรงประเด็น ใช้คำตอบว่า “เป็นคำถามที่ดีมากครับ แต่ต้องขออภัยด้วยที่ไม่มีการพดูถึงเรื่องนี้ในการประชุมครั้งนี้ขอผ่านเป็นคำถามต่อไป”
-ผู้แถลงข่าวต้องมีความมั่นใจ สายตาไม่ส่ายไปมาการวางมือต้องอยู่นิ่ง เพราะภาพเหล่านี้จะปรากฏต่อสายตาผู้ชมทั่วประเทศ
- ตอบคำถามด้วยคำตอบสั้น ๆ ตรงประเด็น ไม่เกิน 50 วินาที เพื่อสื่อสามารถนำไปออกอากาศ หรือตีพิมพ์ได้ทันทีโดยไม่ต้องสรุป
- สื่อโทรทัศน์ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 15 นาทีตั้งกล้องและเดินสายไมค์
- จัดโต๊ะลงทะเบียนสื่อ พร้อมแจกข่าวต่างๆ


10. เมื่อเสร็จสิ้นการแถลงข่าวให้ส่งเอกสารการแถลงข่าว ให้กับสื่อที่ไม่สามารถมาได้ทั้งหมดนี้เป็นแนวทางในการแถลงข่าว ที่รวบรวมนำมาเสนอแบบคร่าวๆ

วันเสาร์ที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2555

แบบฝึกหัดท้ายบทเรียน

“บุญคุณไหนไม่เท่าบุญคุณแม่  ที่มีแต่ความรักไม่รู้จักเหนื่อย  ท่านห่วงใยใส่ใจเราทุกเมื่อ”
ให้นิสิตเขียนค้นหาคำคม หรือสุภาษิต ที่เกี่ยวข้องกับวันแม่ เช่น พระคุณแม่  ทำความดีอย่างไรให้กับแม่
พร้อมเขียนบทความลงในเว็บบล็อก และ Print ส่ง พร้อมนำเสนอในสัปดาห์หน้า ความยาวในการนำเสนอ
ไม่เกิน 2-3 นาที ตามหลักการพูดเพื่อการนำเสนออย่างสร้างสรรค์
ตอบ      แม่นี้มีบุญคุณอันใหญ่หลวง                 ไม่คิดลวงหลอกเราให้ช้ำจิต
              แม่เองต้องผ่ายผอมยอมอุทิศ              กว่าจะได้หนึ่งชีวิตคือตัวเรา
              แล้วทำไมไม่คิดตอบแทนบ้าง              ปล่อยให้แม่อ้างว้างแสนสุดเหงา
              ทำอาหารรอไว้จะให้เรา                        แต่ตัวเราทิ้งแม่ไว้คนเดียว
             ให้ของขวัญวันแม่นับแต่นี้                     โดยทำดีต่อแม่ก่อนแก่เฒ่า
             ให้ท่านได้ประจักษ์รักของเรา                ดีกว่าเฝ้าทำบุญให้เมื่อวายชนม์

คำว่า " แม่ " คำนี้ เป็นคำที่ยิ่งใหญ่กว่าสิ่งใดในโลก เพราะท่านเป็นบุพการีของเรา ที่เลี้ยงเรามาตั้งแต่เล็กๆ จนเราได้เติบโตมาจนถึงทุกวันนี้ ท่านต้องตั้งท้องเรามาตั้ง 9 เดือน กว่าจะคลอดเราออกมา ท่านต้องทนกับความเจ็บปวดและความทรมานมามาก ที่ยอมทนเจ็บแบบนี้ ก็เพราะว่าท่านนั้นรักเรามาก คอยทะนุถนอมเราตั้งแต่เรายังไม่เกิด คอยดูแลเอาใจใส่เราเสมอๆ อยากให้ลูกมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง แล้วเมื่อเราลืมตาครั้งแรกก็รู้สึกอบอุ่น เพราะอยู่ในอ้อมอกของแม่  กว่าลูกจะเติบโตแม่ก็แสนเหนื่อยล้า คอยเฝ้าดูลูก ยามลูกหิวข้าว หรือนมแม่ก็คอยเฝ้าดูแล คอยห่วงใยลูกตลอดเวลา ยามที่แม่เห็นลูกของแม่มีความสุข เห็นลูกยิ้มแย้มแจ่มใส แม่ก็จะพลอยมีความสุขกับลูกไปด้วย แต่ไม่ใช่ว่ายามลูกทุกข์แม่จะทอดทิ้งลูก กลับตรงกันข้าม ดูเหมือนแม่จะทุกข์ยิ่งไปกว่าลูกหลายเท่า แม่คอยปลอบใจลูกให้หายทุกข์ แม่คอยให้กำลังใจลูก แม่ไม่เคยที่จะซ้ำเติมลูกเมื่อลูกผิดหวังพลาดหวัง
แม่คือผู้ให้ แม่ให้ทุกอย่างกับลูกได้โดยที่แม่ไม่เคยหวังสิ่งตอบแทนใดๆเลย แต่มีสิ่งหนึ่งที่แม่หวังและต้องการจากลูก สิ่งนั้นก็คือ แม่ต้องการเห็นลูกเป็นคนดี เป็นคนที่สังคมยอมรับ แม่ต้องการเห็นลูกของแม่ประสบความสำเร็จในชีวิต และการเป็นคนดีนั้นมิใช่ทำดีกับแม่แค่เพียงวันเดียว แต่เราควรจะทำได้ทุกๆวัน  ให้ท่านมีความสุข ให้ท่านสบายใจ เราจะต้องเชื่อฟังคำสอนของท่าน เราจะต้องไม่ต่อล้อต่อเถียงกับท่าน เพียงแค่เราทำแค่นี้ แม่ของเราก็มีความสุข ชื่นใจ สบายใจแล้ว และก็ทำให้แม่หายเหนื่อยจากการทำงานต่างๆได้อีกด้วย เพราะฉะนั้นเราควรที่จะเป็นลูกที่ดีของท่าน คอยดูแลเลี้ยงดูท่านเมื่อท่านเจ็บไข้ได้ป่วยเหมือนที่ท่านคอยดูแลเลี้ยงดูเรามาตั้งแต่เราเล็กๆ ต้องทดแทนบุญคุณของท่านและไม่ทำให้ท่านผิดหวังหรือเสียใจอีกต่อไป  

วันศุกร์ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2555

แบบฝึกหัดการแต่งกาย ให้ตอบคำถามลงใน Weblog และ Print ส่งในวันเรียนสัปดาห์ถัดไป

1. ประโยคที่ว่า “บุคลิกดีมีชัยไปกว่าครึ่ง” นิสิตเห็นด้วยหรือไม่ จงให้เหตุผล Weblog
ตอบ  เห็นด้วย เพราะว่าคนเราไม่สามารถที่จะเลือกเกิดได้แต่สามารถที่จะทำให้ตัวเองดูดีได้ ดั่งสำนวนสุภาษิตที่ว่า ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง การที่คนเรามีบุคลิกภาพดีนั้นถือว่าเป็นการสร้างจิตสำนึกในงานบริการได้ดี  และการมีบุคลิกภาพที่ดีสามารถบอกเกี่ยวกับการทำงานบางอย่าง เช่น การเตรียมความพร้อมที่มีต่อการทำงาน เป็นผู้พร้อมที่จะรับผิดชอบงานในทุกรูปแบบ พร้อมที่จะเผชิญปัญหา และอุปสรรคนานาประการ รวมถึงมีความพร้อมต่อการสร้างปฏิสัมพันธ์และการพูดคุยกับผู้อื่น  เพราะฉะนั้นบุคลิกภาพจึงเป็นเหมือนภาพลักษณ์ภายนอกที่สำคัญ ถือว่าเป็นหน้าตาและกระจกส่องภาพพจน์ของตัวเอง การสร้างบุคลิกภาพที่ดีของตนเองนั้นไม่ยาก ขึ้นอยู่กับความพร้อมและความต้องการโดยมีเทคนิคและหลักการปฏิบัติง่ายๆ ดังนี้
1. การจัดทรงผม
    คงจะเป็นเรื่องแน่ถ้าคุณเดินเข้าห้องประชุม หรือไปพบลูกค้าปรากฏว่าผมคุณไม่ได้หวี  คุณลองคิดดูว่าฝ่ายตรงข้ามจะคิดอย่างไร? ซึ่งในบางครั้งคุณอาจเสียลูกค้าไปเลยก็ได้ โดยมีวิธีพัฒนาตัวเองดังนี้ ก่อนออกจากบ้านทุกครั้งตรวจดูทรงผมว่าเรียบร้อยหรือยัง และจัดทรงผมให้เหมาะสมกับกาลเทศะ โอกาส และบุคลิกภาพของตนเองด้วย
2. การแต่งกาย
    การแต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่หลุดลุ่ย มีกลิ่นเหม็นอับ เสื้อผ้าที่เซ็กซี่เกินไป การแต่งตัวเช่นนี้ทำให้คนอื่นคิดมากไปต่างๆ นาๆ หรือลูกค้าบางคนไม่ชอบก็จะทำให้ไม่ได้อยากพูดคุยด้วยก็เป็นได้ โดยมีแนวทางในการพัฒนาตนเองดังนี้ ควรเลือกเสื้อผ้าที่เหมาะสมกับรูปร่าง และบุคลิกลักษณะของตน โดยดูความเหมาะสมของบุคคลและสถานที่ที่คุณจะไปด้วย นอกจากนี้ควรดูสภาพเสื้อผ้าที่แต่งด้วย คือควรรีดและจัดเสื้อให้เรียบร้อย ที่สำคัญไม่ควรให้ผ้าเหม็นอับหรือมีกลิ่นไม่พึงประสงค์

3. การเดิน นั่ง และยืน
    ลักษณะการเดิน นั่ง และยืน สามารถบอกได้ถึงนิสัยของตัวคุณเองว่าเป็นคนอย่างไร มีอารมณ์ ความรู้สึก และความต้องการเป็นอย่างไร ซึ่งบางคนเดินห่อไหล่ ทำให้ดูไม่มั่นใจในตนเอง ไม่กล้าแสดงออก หลักง่ายๆ ในการเดิน นั่ง และยืนที่ดูดีก็คือ ยืดตัว หน้าตรง เดินแกว่งแขนไปมาเล็กน้อย เพราะการที่เราเดิน นั่ง และยืนถูกลักษณะนอกจากจะส่งผลต่อภาพลักษณ์ของตนเองแล้วยังมีผลต่อสุขภาพของคุณเองอีกด้วย
4. การใช้คำพูด และน้ำเสียง
     การใช้คำพูด และน้ำเสียงนั้นมีความสำคัญยิ่งกว่าสายตาที่จ้องมองคู่สนทนาซะอีก เพราะการใช้น้ำเสียง และคำพูดที่ไม่ถูกกาลเทศะจะทำให้ความหมายที่สื่อออกมาผิด ยิ่งเป็นคนที่ไม่สุภาพด้วยแล้ว จะทำให้คนอื่นมองเราเป็นคนก้าวร้าว สักแต่ว่าจะพูด โดยสามารถพัฒนาตัวเองได้ดังนี้ นิ่งเงียบ ใช้สถานการณ์ของการเงียบสยบความรู้สึก เพราะการที่ไม่พูดจะดีกว่าพูดออกมา แต่ถ้าทนไม่ไหวจริงๆ ก็ให้เลือกใช้คำพูดแบบบัวไม่ให้ช้ำ น้ำไม่ให้ขุ่นจะดีกว่า คือ หลีกเลี่ยงการใช้คำพูดที่ดูถูกดูหมิ่น เหน็บแนม หรือใช้คำพูดก้าวร้าว

2. ถ้านิสิตเป็นคนมีรูปร่างอ้วนควรแต่งกายอย่างไร พร้อมภาพประกอบ ลงใน Weblog
ตอบ  
สวมใส่เสื้อผ้าให้พอดีตัว ไม่หลวมหรือฟิตเกินไป
- เสื้อผ้าควรเป็นลายแนวตั้ง 
- ไม่ควรสวมเสื้อคอเต่า บริเวณคอควรเปิด
- ไม่สวมใส่เสื้อผ้าหลายชิ้น ให้ดูรุงรัง หรือสวมใส่เครื่องประดับมากมาย   
- กระโปรงไม่ควรใส่กระโปรงบานย้วย  ควรเป็นทรงสอบ หรือ พอดีตัว
- กางเกงควรเป็นขาทรงกระบอก หรือ ขาม้าเล็กน้อย
- รองเท้าควรใส่แบบมีส้น อาจจะ 1 นิ้วขึ้นไป
- สวมเสื้อผ้าที่เสริมไหล่
- ควรเป็นเสื้อผ้าเนื้อเรียบ เบาบาง
- เสื้อควรเป็นคอวี
- ผ้าสีเข้ม ช่วยให้ดูผอม
- ส่งที่ต้องห้ามสำหรับคนอ้วนก็คือเสื้อผ้ามันวาว ๆ เพราะความมันวาว จะขยายทุกอย่าง
  ทำให้ มันดูใหญ่โต ขึ้นอีกเป็นเท่าตัว 
- ไม่ควรเอาเสื้อใส่ในกางเกง หรือกระโปรงเพราะจะยิ่งเน้นสัดส่วนมากขึ้น


4. ถ้านิสิตได้รับมอบหมายให้แต่งกายในวันเปิดตัวแถลงข่าววีดิทัศน์หนังสั้น นิสิตจะแต่งกายอย่างไร
ตอบ  
สวมเสื้อผ้าให้พอดีกับรูปร่าง  ไม่คับหรือหลวมเกินไป  ไม่ควรใส่เสื้อยืด หรือกางเกงยีนส์  
- ควรใส่กระโปรงยาวได้ระดับพอดี  ไม่ใช้แบบย้วยหรือพลิ้วบาง ไม่มีสีสันหรือลวดลายมาก
  เกิน ไป  
- ควรแต่งหน้าให้มีสีสันบางเล็กน้อย  แต่ไม่ควรแต่งหน้าเข้มจนเกินไปหรือไม่ได้แต่งหน้าเลย  
- ควรใส่รองเท้าแบบรัดส้น  ไม่ใส่รองเท้าแบบแตะ
- ถ้าไว้ผมยาว ควรมัดผมให้เรียบร้อยหรือติดกิ๊บ เพื่อไม่ให้ผมปรกหน้าเวลาแถลงข่าว
**  และที่สำคัญเราอาจจะแต่งกายชุดนิสิตก็ได้ เพราะการใส่ชุดนิสิตนักศึกษา ดูมีความสุภาพ สะอาดเรียบร้อย และถูกต้อง สร้างความภาคภูมิใจ เวลาใส่แล้วรู้สึกว่า มันมาจากความสามารถของเราที่ก้าวมาถึงขั้นนี้ และถือว่าเป็นเครื่องแบบอันทรงเกียรติบ่งบอกถึงเอกลักษณ์ของนิสิตนักศึกษาไทยอีกด้วย

วันพฤหัสบดีที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2555

ภาพยนตร์หนังสั้น สะท้อนคุณธรรม..จริยธรรม เรื่อง " หนูอยากได้ "



URL ของฉันคือ >> http://youtu.be/Hw1kL7TB7lc

   ณ หอพักนิสิต มีหญิงสาว 2 คน ชื่อ ฝน กับ แป้ง  แป้งเป็นสาวไฮโซใช้แต่ของแบรนด์เนม  ในขณะที่ฝนมีฐานะที่พอมีพอกิน  ฝนมักจะเห็นแป้งคลุกคลีอยู่กับโทรศัพท์ของเธอที่เรียกว่า BB อยู่ตลอดเวลา  วันหนึ่งช่วงพักกลางวันที่ร้านอาหาร ฝนกับแป้งนั่งกินข้าวกัน  แล้วก็เห็นพี่แดนนั่งกินข้าวอยู่  ซึ่งฝนแอบปลื้มรุ่นพี่คนนี้มานานแล้ว แต่ไม่กล้าขอเบอร์  เพราะตัวเองใช้โทรศัพท์เก่า แต่พี่เขาใช้ BB ที่มีราคาแพง ก็เลยปรึกษาแป้งแล้วแป้งก็เลยแนะนำฝนให้ไปซื้อ BB ฝนก็เลยโทรไปอ้อนแม่ให้ซื้อโทรศัพท์ BB ให้  แต่แม่ไม่มีเงินพอที่จะซื้อ แล้วเห็นว่ามันเป็นเรื่องที่ฟุ่มเฟือย  ฝนรู้สึกไม่พอใจในสิ่งที่ตนมี ก็เลยประชดแม่ด้วยพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม  ฝนเริ่มที่จะลักขโมยของเงินเพื่อนเพื่อนำไปซื้อโทรศัพท์   ในที่สุดฝนก็ได้ BB มา ทำให้ฝนได้คุยกับพี่แดน แล้วก็นัดเจอกัน แต่ติดตรงที่ฝนยังไม่พร้อมเพราะเธอไม่มั่นใจในฐานะตัวเอง  เลยตัดสินใจทำสิ่งเลวร้ายที่สุดในชีวิต คือ ขายตัวผ่านสื่อออนไลน์เพื่อหวังจะนำเงินมาใช้จ่าย  แต่โชคไม่เข้าข้างเธอ ทำให้เธอบังเอิญไปพบกับรุ่นพี่ที่เธอคิดว่าไว้ใจ ได้นำภาพของเธอไปเผยแพร่ทั่วมหาวิทยาลัย ทำให้ฝนอับอายอย่างมาก และทนอยู่ในมหาวิทยาลัยนี้ไม่ได้  สุดท้ายชีวิตของเธอก็พบกับบทสรุปของชีวิตที่ต้องแลกกับอนาคตของเธอ...